หนุ่มวัย 26 แชร์ประสบการณ์พบ เนื้องอก ในกระดูกเชิงกราน ต้องใช้เวลารักษาตลอดชีวิต

ชายหนุ่มวัย 26 ปี แชร์ประสบ การณ์ปวดหลังปวดร้าวไปทั้งตัว ท้ายที่สุดพบ เนื้องอก ในกระดูกเชิงกราน ที่บางทีอาจลุกลามเป็นโรคมะเร็ง ซ้ำยังเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จำเป็นต้องใช้เวลารักษาติดตามอาการไปตลอดชีวิต

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวแถลงการณ์ว่า โลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวจากผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก Prem Kamphaengthip ที่ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุใจความว่า ตอนนี้มีกระแสเกี่ยวกับแพทย์แล้วก็ตำรวจที่เป็นโรคมะเร็งในอายุยังน้อย เลยต้องการเป็นอีกหนึ่งเสียงว่าร่างกายของเรา เราควรดูแลให้ดี ขอให้อ่านให้จบนะ ดีกับทุกคนแน่นอน

เนื้องอก ปัจจุบันนี้อายุ 26 ปี ก่อนหน้าที่ผ่านมาก็เป็นผู้ชายที่แข็งแรง ว่ายน้ำ เตะบอล วิ่ง เล่นฟิตเนส ได้ปกติทุกๆอย่าง

กระทั่งเมื่อ 4 ปีที่แล้วได้ทำงานบนเรือบรรทุกน้ำมัน แล้วก็จำเป็นต้องยกของหนัก จำนวนมากแทบทุกวัน ทำให้ใช้ ร่างกายหนักมาก

แล้วก็ ใช้ท่าทางสำหรับในการยกที่ผิด จึงเกิดอาการ ปวดหลังร้าวลงขา แต่ด้วยความเป็นเด็ก เลยคิดว่าไม่น่า เป็นอะไรมาก คงจะแค่ไม่ได้ยืด เส้นก่อนยกของ กับร่างกายล้า จากการ ทำงานหนัก 24/7 ก็ปล่อย อาการนี้ ผ่านมาเรื่อยๆ แล้วก็พูดเล่นกับตัวเองว่า แก่แล้วก็มีเจ็บปวดธรรมดา

กระทั่งวันนึงเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา ลุกจากเตียง ไม่ได้ ลุกนั่งก็เจ็บ ยืนนานก็เจ็บ เดินมากก็เจ็บ ขึ้นลงรถก็เจ็บ ทำทุกๆอย่างคือ เจ็บหลังร้าวลงขา ทั้งหมด ตัดสิน ไปโรงพยาบาล แล้วตรวจพบเนื้องอก ในกระดูกเชิงกรานด้านขวา กับหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จังหวะที่ทราบ ก็มองดูย้อนตัวเองกลับมาว่า นี่เราอายุแค่ 26 เราต้องมาเป็นอะไรแบบนี้ด้วยหรอ

การใช้ชีวิตปกติเปลี่ยนเป็นเรื่องยาก เคลื่อนไหวลำบาก ทำอะไรก็ช้าลง กระทบชีวิตประจำวันแล้วก็งานไปหมด จำเป็นต้องกินยาวันละ 15 เม็ด มื้อละราว 4-5 เม็ด เปลี่ยนเป็นขาดยาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นแทบจะใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้เลย

รวมทั้งเสียบุคลิกด้วย ด้วยเหตุว่าตัวจะเอียงไปด้านซ้าย เนื่องจากร่างกายมันเอียงเองเพื่อหลบอาการเจ็บปวด

แล้วก็เดินเหมือนคนเจ็บขาตลอดเวลา ท้ายที่สุดจำเป็นต้องเข้าออกโรงพยาบาลเดือนนึงไม่ต่ำกว่า 7-14 วัน ทำให้เสียเวลาชีวิต แล้วก็ขณะที่จะได้ใช้อย่างสมวัยด้วย เพื่อติดตามอาการแล้วก็วางแผนการรักษากับคุณหมอ

ปล. เนื้อที่ตรวจพบหมอบอกว่าเป็นเนื้อดี ที่บางทีก็อาจจะเปลี่ยนเป็นเนื้อร้ายได้ในอนาคต จำเป็นต้องคอยติดตามมันไปตลอดชีวิต แล้วก็ผ่าออกไม่ได้แล้ว

พบก้อนเนื้อช้าไป หากผ่าออกจะทำให้เดินไม่ได้ หรือเดินกะโผลกกะเผลกตลอดชีวิต ทำได้แค่คุมไม่ให้มันโตไปกว่านี้

ปล 2. อยากให้เพื่อนพี่น้องทุกคน ไม่ว่าช่วงอายุเท่าไหร่ก็ตาม หันมาใส่ใจสุขภาพแล้วก็ดูแลตัวเองมากขึ้น ยิ่งอายุ 25 ขึ้นไปแล้ว อะไรก็เกิดขึ้นกับร่างกายเราได้

ปล 3. แพทย์ฝากเตือนทุกคนว่า เจ็บปวดนิดหน่อย ก็มาโรงพยาบาลได้แล้ว ขอบคุณที่ทุกคนอ่านมาถึงตรงนี้ รักแล้วก็เป็นห่วง.

5 วิธีเช็ค หมอนรองกระดูก ทับเส้นประสาท

1. มีลักษณะอาการปวดสะโพกร้าวลงขา ถ้าคุณมีลักษณะอาการปวดสะโพกหรือปวดเอวก็ตามแต่ แล้วเกิดร่วมกับอาการร้าวลงขา ไม่ว่าจะข้างใดข้างหนึ่งหรือสองข้างก็ตาม แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดแค่ข้างใดข้างหนึ่ง

โดยลักษณะการร้าวลงขา ส่วนใหญ่จะร้าวไปที่ก้น หรือด้านหลังต้นขา ไปที่แถบขางขาหรือข้างหลังขา ซึ่งจะเกิดร่วมกับอาการชาหรือไม่ก็ได้ครับ แล้วก็ส่วนใหญ่อาการจะเป็นหนักในตอนที่นั่งนานหรือยืนนานๆฯลฯ

2. อาการอ่อนแรงที่ขาร่วมด้วย โดยแพทย์ให้คุณเช็คง่ายๆ คือ ให้ลองกระดกข้อเท้าขึ้นหรือกระดกนิ้วโป้งเท้าขึ้นค้างไว้ หรือว่าหากคุณมีเพื่อน บางทีก็อาจจะลองให้เพื่อนใช้มือต้านแรงตอนกระดกข้อเท้าหรือนิ้วโป้งเท้าไว้ เทียบกับอีกข้างที่ปกติก็ได้ หากมีความรู้สึกว่าอ่อนแรงกว่าอีกด้าน นั้นหมายความว่าคุณควรรีบไปพบแพทย์โดยเร่งด่วนเลยครับ

3. ลองให้เพื่อนยกขาของคุณในท่านอนหงาย โดยให้เพื่อนของคุณใช้มือรองข้อเท้าแล้วยกขึ้นมากระทั่งหัวเข่าเหยียดตรง โดยให้คุณทิ้งน้ำหนักขาไปที่มือของเพื่อนทั้งหมด ห้ามเกร็งขาหรือออกแรง ถ้าคุณออกอาการปวดสะโพกร้าวลงขาแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ที่คุณจะเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้ครับ

4. ให้สังเกตดูเวลา ไอ จาม เบ่ง ว่ามีลักษณะอาการปวดหลังหรือสะโพกหรือไม่ นั่นบางทีอาจแสดงถึงอาการของหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือปลิ้นได้ครับ แต่ว่าถ้ายังไม่มีอาการลงขา

ก็บางทีก็อาจจะไม่ได้เคลื่อนหรือปลิ้นไปทับเส้นประสาท ถ้าหากมีลักษณะอาการเช่นนี้ควรที่จะขอความเห็นแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อขอคำแนะนำสำหรับในการดูแลตนเองเพื่อป้องกันไม่ไห้ตัวโรคเป็นไปมากกว่านี้ครับ

5. อาการชาที่ส่วนขา ถ้าคุณไม่มั่นใจว่ามีลักษณะอาการเหล่านี้หรือไม่ ให้คุณเช็คง่ายๆโดยการใช้ไม้จิ้มฟัน มาจิ้มรอบๆที่รู้สึกชาเทียบกับขาอีกด้าน ถ้าคุณรู้สึกแตกต่างกัน

นั่นบางทีอาจบ่งบอกถึงอาการชา ซึ่งอาการชาในหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท บางทีอาจไม่ได้มีลักษณะอาการตลอด แต่ว่าบางทีอาจเกิดกับบางกิจกรรมหรือบางท่า ยกตัวอย่างเช่นการยืนหรือนั่งนานๆซึ่งหากว่าเกิดอาการนี้ขึ้นก็ควรมาพบแพทย์เช่นกันด้วยเหตุว่านั่น บ่งบอกถึงการถูกกดทับของเส้นประสาทแล้วครับ

เนื้องอกกระดูก แบ่งออกเป็น

* เนื้องอกปฐมภูมิ เนื้อเยื่อแหล่งกำเนิดมาจากระบบกระดูก แล้วก็ กล้ามเนื้อ

* เนื้องอกทุติยภูมิ เนื้อเยื่อแหล่งกำเนิดมาจากเนื้อเยื่อชนิดอื่น แต่ว่ามาเกิดเนื้องอก ในกระดูกแล้วก็กล้ามเนื้อ ยกตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งจากอวัยวะต่างแพร่ขยายมาที่กระดูก ยกตัวอย่างเช่น โรคมะเร็ง ปอด ต่อมธัยรอยด์ เต้านม ต่อมลูกหมาก ฯลฯ